เมื่อพูดถึงเรื่องการทำงานบ้าน ใครหลายคนแค่ได้ยินก็เหนื่อยขึ้นแบบยังไม่ได้ลงมือทำเลยใช่มั้ยล่ะคะ …แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้เลย เพราะคงไม่มีใครที่อยากจะอยู่ในบ้านหรือในห้องที่สกปรก ดังนั้นการมีเครื่องทุ่นแรงติดไว้ที่บ้านก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะนอกจากช่วยให้ให้บ้านสะอาดแล้ว ยังช่วยให้เราไม่เหนื่อยและยังสนุกกับการทำงานบ้านอีกด้วย
ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องทุ่นแรงที่ควรมีติดไว้ที่บ้าน แต่หลายคนคงสงสัยว่าเราจะต้องเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบไหน เลือกยี่ห้ออะไร ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะมาบอกเคล็ดลับในการเลือกซ้อเครื่องดูดฝุ่นกันค่ะ

1. เลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นจากรูปแบบการจัดเก็บฝุ่นหรือขยะ มีทั้งหมด 2 แบบ คือ
– แบบถุงกระดาษหรือกล่องเก็บฝุ่น
เป็นระบบการทำงานแบบแรกเริ่มของเครื่องดูดฝุ่น ใช้งานง่าย สามารถดูดเอาทั้งฝุ่น, เศษขยะ, เส้นผม มาไว้ในถุงกระดาษที่อยู่ด้านใน เมื่อขยะเต็มเราก็ถอดออกไปทิ้ง
ข้อดีคือ เราไม่ได้สัมผัสพวกเศษขยะหรือฝุ่นโดยตรง เพราะเราทิ้งถุงกระดาษนั้นไปทั้งอัน แต่ในสมัยนี้ก็มีแบบเอาไปซักแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ หรือเป็นแบบกล่องเก็บฝุ่น ที่ล้างทำความสะอาดได้ง่าย ช่วยประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น
ข้อเสียคือ เครื่องดูดฝุ่นแบบนี้ในช่วงที่เครื่องกำลังทำงานจะปล่อยไอเสียและกลิ่นต่างๆ รวมถึงเศษฝุ่นเล็กๆ ออกมาด้วย
– แบบไซโคลน
เครื่องดูดฝุ่นแบบไซโคลน กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้ จะทำงานโดยการดูดฝุ่น เศษขยะต่างๆ รวมถึงไอเสียไปแยกเก็บไว้เป็นส่วนๆ ตัดปัญหาเรื่องไอเสียและฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย
ข้อดีคือ ประหยัดเงิน เพราะไม่ต้องไปซื้อถุงมาเปลี่ยนบ่อยๆ ไม่มีไอเสีย ไม่มีฝุ่นกระจาย
ข้อเสียคือ แรงลมในการดูดจะน้อยกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบถุงกระดาษ
นอกจากนี้หลายคนเคยสงสัยว่า ทำไมเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ แล้วแรงดูดมันน้อยลง ไม่ต้องงงนะคะ เครื่องดูดฝุ่นไม่ได้เสียแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะว่ามีขยะในถุงเยอะเกินไป เราแค่นำขยะไปทิ้ง เครื่องก็จะกลับมาทำงานได้ปกติค่ะ
2. ประเภทหัวดูดของเครื่องดูดฝุ่น
หัวดูดแบบกังหัน เป็นระบบแปรงหมุนด้านในด้วยพลังลม เหมาะกับการทำความสะอาดบนพื้นเรียบ เช่นพื้นไม้ พื้นกระเบื้อง ไม่ควรใช้กับพื้นพรมหรือเบาะขนสัตว์ ซึ่งถ้าทำความสะอาดแบบทั่วๆ ไป ก็ใช้แค่หัวดูดแบบนี้ก็พอแล้วค่ะ

หัวดูดพลังมอเตอร์ เป็นระบบที่มีแปรงปัดอยู่ด้านในและมีพลังดูดที่แรงกว่าแบบหัวดูดกังหัน เหมาะกับการทำความสะอาดบนพื้นพรม พื้นผิวขรุขระ เช่น โซฟา หรือ ผ้าปูขนสัตว์ และยังใช้กับพื้นเรียบก็ได้ หัวดูดแบบพลังมอเตอร์จะช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ต้องออกแรง ห้องก็สะอาดหมดจด
3. เลือกเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานง่าย มีน้ำหนักเบา กะทัดรัด
เวลาทำงานบ้าน เราต้องยกและย้ายเครื่องดูดฝุ่นไปมา เพราะฉะนั้นควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีน้ำหนักไม่เกิน 4-5 กิโลกรัม เพื่อความสะดวกสบายในการทำความสะอาดบ้าน
4. เลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีฟีเจอร์เพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น หัวดูดเล็กๆ ที่เข้าตามซอกได้ หรือ มีเซ็นเซอร์จับตรวจฝุ่นต่างๆ เป็นต้น
#เมนู #อาหาร #แม่บ้าน #เด็ก #สูตรอาหาร #บ้านและสวน #ufabet