การผ่าคลอดเป็นการคลอดที่ต้องผ่าหน้าท้องเพื่อให้ทารกออกมา ซึ่งการผ่าคลอดนั้นมักใช้กับคุณแม่ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการคลอดธรรมชาติ เช่น แม่มีโรคประจำตัว เด็กตัวใหญ่ ก็จะใช้วิธีผ่าคลอด แล้วเด็กผ่าคลอดนั้นจะเป็นอย่างไรนี่คือ 7 เรื่องเกี่ยวกับเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่บ้านยุคใหม่ต้องรู้ค่ะ
1.การผ่าคลอดนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและสมองของทารก คุณแม่จึงไม่ต้องกังวลเลยว่าทารกผ่าคลอดจะมีพัฒนาการช้ากว่าทารกคลอดธรรมชาติ
2.การผ่าคลอดจะทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้รับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์จากช่องคลอดของแม่นั่นเอง ดังนั้นคุณแม่ควรให้ลูกดื่มนมแม่เยอะๆ และเน้นอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ดี
3.จากผลการวิจัยมีการยืนยันว่าทารกผ่าคลอดมีโอกาสป่วยง่าย เนื่องจากมีระบบภูมิต้านทานต่ำกว่าปกติ ซึ่งแตกต่างจากทารกคลอดธรรมชาติที่มีร่างกายแข็งแรงกว่า
4.การผ่าคลอดคือทางเลือกสำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจนไม่สามารถคลอดเองโดยธรรมชาติได้ หรือมีการวินิจฉัยจากแพทย์แล้วว่าไม่สามารถคลอดได้เองจึงต้องผ่าคลอด เช่น ลูกตัวใหญ่ ลูกแฝด สายสะดือสั้นเกินไป เป็นต้น
5.ทารกผ่าคลอดอาจจะใช้เวลาในการนอนโรงพยาบาลนานกว่าทารกคลอดธรรมชาติ เนื่องจากคุณแม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าแม่คลอดธรรมชาติ
6.ทารกผ่าคลอดมีโอกาสเสี่ยงต่อการมีภูมิต้านทาน อ่อนแอเพิ่มถึง 46% เลยทีเดียว ซึ่งต่างจากทารกที่แม่คลอดเองมาก
7.ทารกผ่าคลอดมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหอบหืด เพิ่มขึ้น 23% ซึ่งโรคหอบหืดในเด็กนั้นถือเป็นโรคอันตรายที่อาจส่งผลต่อชีวิตเด็กได้ ดังนั้นต้องเฝ้าระวังให้ดี
นี่คือสิ่งที่คุณแม่ควรรู้ก่อนตัดสินใจผ่าคลอด เพราะฉะนั้นแล้วหากคุณแม่จะคลอดทารกควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่และลูกน้อย แต่หากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องผ่าตลอดเราแนะนำให้คุณแม่คลอดโดยวิธีธรรมชาติจะดีกว่า
ติดตามเรื่องราวความรู้และทริคดีๆ เกี่ยวกับเรื่องของแม่บ้าน แม่บ้านยุคใหม่ เรื่องครอบครัวได้ที่นี่
#แม่บ้านยุคใหม่ #แม่บ้าน #แม่และเด็ก #ครอบครัว