อากาศในหน้าร้อนแบบนี้ไม่เพียงแต่ผู้ใหญ่ที่ต้องทนทรมานกับคลื่นความร้อน แต่เด็กๆ ก็เช่นกัน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรคไข้หวัดแดดในเด็กกัน จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลย

ไข้หวัดแดด เกิดจากอะไร
การเกิดไข้หวัดแดดนั้น เกิดจากที่อุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยที่เป็นอากาศที่ร้อนเป็นหลักจึงทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน
อาการไข้หวัดแดด
1.อ่อนเพลีย
- ข้อนี้อาจแยกได้ยากเพราะหากเป็นไข้หวัดก็จะเป็นเช่นกัน และหากเป็นไข้ร่วมกันกันปากที่แห้งจนแข็งอันนี้จะเป็นข้อบ่งชี้ว่าเด็กเป็นไข้หวัดแดดได้
2.ไม่มีอาการเจ็บคอ คอแห้ง แสบคอ
- หากเป็นหวัดจากไวรัสเด็กจะมีอาการเจ็บคอ ร่วมด้วยและอาจมีเสมหะในรายที่คออักเสบมากๆ อาจทำให้เด็กรู้สึกแสบคอมากได้เช่นกัน
3.มีน้ำมูกใส เล็กน้อยหรือไม่มีเลย
- หากเด็กมีน้ำมูกแต่มีมากหรือเป็นมูกขุ่นนั้นแสดงว่าเป็นไข้หวัดจากเชื้อไวรัสไม่ใช่หวัดแดด
4.ทานข้าวได้น้อย
- หากเด็กเป็นหวัดแดดจะรู้สึกว่าเวลาทานข้าว หรือขนมแม้กระทั่งน้ำจะรู้สึกขมอยู่ตลอดเวลาทำให้เด็กไม่อยากทานข้าวหรือทานได้น้อยนั่นเอง
5.ปวดแสบกระบอกตา
- หากเด็กรู้สึกปวดตาและแสบตาร่วมด้วย นั้นหมายถึงว่าลูกของคุณนั้นได้เป็นหวัดแดดแล้ว

วิธีรักษาไข้หวัดแดด
1.เช็ดตัวบ่อยๆ
- หากเด็กไม่สบายตัวพร้อมกับมีไข้ให้คุณแม่ใช้น้ำอุ่นเช็ดตัวให้เด็กเพื่อให้เด็กมีความสบายตัว และเป็นการลดความร้อนจากร่างกายนั้นเอง
2.ให้ทานอาหารอ่อน
- การทานอาหารสำหรับเด็กที่เป็นไข้แดด ควรให้เด็กทานอาหารประเภทต้ม เช่นข้าวต้ม โจ๊ก ซุปอุ่นๆ เพื่อให้ร่างกายเด็กย่อยได้ง่ายและเป็นการช่วยให้โล่งสบายอีกด้วย
3.ทานยาลดไข้
- เมื่อให้เด็กได้ทานอาหารแล้วควรให้เด็กทานยาลดไข้เพื่อช่วยให้ไข้ลดลง โดยเลือกยาลดไข้ที่เหมาะกับอายุของลูกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย และเพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการรักษานั่นเอง
4.ดื่มน้ำมากๆ
- การดื่มน้ำของเด็กนั้นไม่ได้ให้ดื่มคราวละมากๆ แต่เป็นการให้จิบบ่อยๆ และควรเป็นน้ำต้มสุกในอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นเพื่อเป็นการช่วยให้ไล่ความร้อนในร่างกาย

ในช่วงหน้าร้อนการปล่อยให้เด็กๆ ออกไปเล่นนั้น คุณแม่ควรเลือกให้ลูกเล่นในร่มที่มีลมพัดผ่านตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยต้องสะสมความร้อนมากๆ จนกลายเป็นไข้หวัดแดด
ซึ่งแม้ว่าโรคนี้จะไม่ได้อันตรายมากนัก แต่เมื่อลูกป่วยก็คงไม่ดีแน่ เพราะฉะนั้นพยายามป้องกันอย่าให้ลูกป่วยจะดีกว่า
#ไข้หวัดแดด