สำหรับเด็กที่มีฟันน้ำนมออกเร็ว คุณแม่จะต้องมีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี การแปรงฟันลูกหรือทำความสะอาดฟันให้กับลูก จึงเป็นวิธีป้องกันเบื้องต้นที่ดีที่สุดให้กับลูก เพราะฉะนั้นคุณแม่จะต้องมีการศึกษาการป้องกันฟันผุไว้ก่อนที่ฟันของลูกจะขึ้น จึงจะช่วยให้ลูกสามารถมีฟันที่มีสุขภาพดีได้อีกด้วย สำหรับเด็กที่เกิดอาการฟันผุนั้น จะเกิดผลเสียตามมาอย่างมากมาย โดยอาจจะส่งผลกระทบถึงการใช้ชีวิตประจำวันและการเรียนรู้ของเด็กได้ วันนี้จึงมีวิธีดูแลรักษาฟันของเด็กๆ มาฝากคุณแม่ได้มาลองทำตามกันดู
วิธีสังเกตว่าลูกฟันผุ

- ในระยะเริ่มต้นของอาการฟันผุ จะสังเกตได้ว่าผิวฟันนั้นจะเปลี่ยนไป ผิวฟันจะด้าน ไม่เงา มีสีขาวขุ่น
- ในระยะต่อมาถ้าหากไม่ได้รับการรักษา หากพบว่าเกิดฟันผุที่บริเวณฟันกราม สิ่งที่สังเกตได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ จะเกิดสีดำที่บริเวณกลางฟันกราม และถ้าหากยังไม่ได้รับการรักษาอีกฟันจะกร่อนลงไปจนเกิดเป็นรู และขยายขนาดรูออกไปเรื่อยๆ จากนั้นฟันจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำอย่างชัดเจน
อาการที่เกิดจากฟันผุที่สังเกตได้

หากพบว่าลุกน้อยฟันผุแล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จะทำให้เกิดอาการปวดฟัน มีหนอง เหงือกบวม และยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หากฟันเป็นสีดำทั้งหมด นั่นหมายความว่าโพรงประสาทฟันถูกทำลายหมดแล้ว ซึ่งเด็กจะไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด แต่โพรงประสาทฟันเป็นพิษทำให้เกิดการอักเสบ ซึ่งอาการตรงนี้น่าเป็นห่วงและเป็นอันตรายมาก
วิธีการป้องกันฟันผุ

- สอนลูกให้ทำความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี ด้วยการแปรงฟันวันละ 2 เวลา คือ เช้า และ เย็น ซึ่งการแปรงฟันควรแปรงอย่างถูกวิธี เพื่อกำจัดเศษอาหารให้หลุดออกจากซอกฟัน
- หลีกเลี่ยงการกินขนมหวาน หรือน้ำอัดลม เพราะสิ่งเหล่านี้คือตัวการสำคัญของอาการฟันผุ
- เข้าพบทันตแพทย์อยู่เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ปีละ 2 ครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน และควรเคลือบฟลูออไรด์ ปีละ 2 ครั้ง เพื่อสุขภาพฟันที่ดี
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับการจัดการป้องกันฟันผุให้กับเด็ก ซึ่งบอกเลยว่าหากคุณแม่คนไหนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทัน คุณแม่สามารถพาลูกๆไปถอนฟันที่ผุออกไปได้เลย เพราะหากปล่อยไว้นานๆ ลูกอาจจะเกิดอาการเหงือกอักเสบ และมีอาการปวดฟันได้ เพราฉะนั้นคุณแม่ควรที่จะพาลูกไปหาคุณหมอเฉพาะทาง เพื่อเข้าไปถอนฟันที่ผุออก เพื่อลดความเสี่ยงในการปวดฟันนั่นเอง
#ฟันผุ #ป้องกันฟันผุ #แม่บ้านยุคใหม่