สำหรับเด็กที่มีจะนอนหลับของแต่ละคน มักจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป เพราะเด็กๆส่วนใหญ่มักจะนอนดิ้น หรือเด็กๆบางคนชื่นชอบในการห่มผ้ามาก การควบคุมอุณหภูมิให้ลูกๆได้นอนสบายๆ จะเป็นหน้าที่หนึ่งของคุณแม่ที่จะสามารถช่วยให้ลูกนอนหลับสบายขึ้น บ้านเราก็มีหลากหลายฤดูกาล
ซึ่งอากาศในแต่ละวันก็มีแตกต่างกัน ซึ่งคุณแม่ก็จะต้องดูแลเอาใจใส่เรื่องนี้เป็นพิเศษ สำหรับเด็กที่ชอบนอนกรน หลายๆคนคิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่การนอนกรนของเด็กๆนั้นอาจะบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพของลูกๆได้ วันนี้เราจึงมีข้อมูลทำไม ลูกนอนกรน มาฝากคุณแม่ให้มาสังเกตกัน

ลูกนอนกรนบ่งบอกอะไรได้บ้าง
- ต่อมทอนซิลโต เป็นต่อมน้ำเหลือที่อยู่ด้านหลังโพรงจมูก เด็กที่เป็นโรคนี้จะมีอาการน้ำมูกไหลเรื้อรัง ชอบสูดน้ำมูกลงคอบ่อย ๆ หรือมีเสมหะ ครืดคราดในคอ เจ็บคอบ่อย อาจมีพูดไม่ชัดและเสียงเบาได้
- ลูกนอนกรน อาจเกิดจากภาวะจมูกบวมอักเสบเรื้อรังจากภูมิแพ้ หรือไซนัสอักเสบ
- ภาวะอ้วน เด็กจะมีผนังคอหนาขึ้น
- โครงหน้าผิดปกติ เช่น หน้าแคบและ คางสั้น
- โรคทางพันธุกรรม เช่น โรคทางสมองและกล้ามเนื้อที่มีผลต่อการหายใจ

วิธีรักษาเมื่อลูกนอนกรน
- การดูแลสุขภาพลูกนอนกรน โดยผู้ปรกครองจะต้องจัดการทำความสะอาดห้องนอนให้สะอาดและมีอากาศถ่ายเท ปราศจากฝุ่นอยู่เสมอ สำหรับเด็กที่เป็นโรคอ้วน คุณแม่จะต้องจัดการให้เด็กออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก รวมไปถึงอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย
- การรักษาด้วยยา คือการให้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก หรือหากมีอาการภูมิแพ้ สามารถใช้น้ำเกลือในการล้างจมูก เพื่อให้น้ำเกลือเข้าไปฆ่าเชื้อภายในโพรงจมูก และสามารถจัดการน้ำมูกออกมาอย่างง่ายดาย
- การรักษาด้วยการผ่าตัดต่อมทอนซิลและอะดีนอยด์ การรักษานี้จะใช้เฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการหนักจริงๆ ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนี้จะทำการรักษาตามขั้นตอนของแพทย์

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับอาการ ลูกนอนกรน ซึ่งคุณแม่อย่างเผลอลืมดูโดยเด็กขาด ว่าลูกของคุณแม่มีอาการแสดงออกมาอย่างไรเมื่อช่วงที่ลูกนอนหลับ เพราะหากคุณแม่ไม่รีบไปรักษาตามอาหารที่ลูกแสดงออกมา ลูกของคุณแม่ก็จะมีสุขภาพที่แย่ลงอย่างแน่นอน เพราะการนอนที่มีคุณภาพจะสามารถพัฒนาสมองของลูกได้เป็นอย่างดี ควรจะเป็นการนอนหลับที่มีออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองได้อย่างเต็มที่ การกรนจะทำให้ลูกหายใจไม่เต็มที่ อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ หากอาการกรนรุนแรงมากขึ้นจนทำให้หยุดหายใจ
#แม่บ้านยุคใหม่ #ไลฟ์สไตล์ของแม่บ้าน #ลูกนอนกรน