ตั้งแต่เด็กจนโตมามีงานทำ เราก็เคยได้ยินได้ฟังและผ่านการสอบตกที่คนอื่นต่างมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดของตัวเองที่อ่านหนังสือหรือติวมาไม่มากพอแสดงให้เห็นถึงการเรียนรู้ที่ไม่ได้รับประสิทธิภาพจากการสอนของครูมาใส่ตัวอย่างที่ควรจะเป็น ค่านิยมของผู้ใหญ่และทุกคนจึงมองว่าคนที่สอบตกถือเป็นหนึ่งในบุคคลประเภทที่มีประวัติการเรียนไม่ดี แม้จะแก้ให้ผ่านแล้วก็ตาม แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในบางกรณี “การสอบตก” ก็ไม่ใช่ความผิดพลาดของเด็กนักเรียนไปเสียทุกอย่าง
สอบตกเพราะข้อสอบออกยากเกินไป
ตามปกติของครูที่เป็นผู้ออกข้อสอบมักจะใช้วิธีการออกโจทย์โดยต้องอิงตามเกณฑ์ความยาก – ง่ายของข้อสอบเป็นเปอร์เซ็นต์เพื่อใช้ในระดับมาตรฐานสำหรับนักเรียนทุกคน แต่ในปัจจุบันครูส่วนใหญ่มักจะมีงานและภาระของตัวเองที่ต่างคนต่างต้องเร่งรีบมากมาย การออกข้อสอบจึงไม่มีการอิงเกณฑ์ใด ๆ นอกจากตัวชี้วัดแบบผ่าน ๆ และอะไรที่เป็นความรู้ลึกและน่าสนใจชวนท้าทายเหมาะที่จะนำมาให้เด็กนักเรียนสอบก็เอามาออกแค่นั้น โดยเฉพาะวิชาที่ต้องใช้ความคิดหนักอย่างคณิตศาสตร์ที่ครูมักออกข้อสอบมาให้ยากกว่าแบบฝึกหัด แม้จะใช้สูตรการคิดที่เรียนมา แต่ก็ออกแบบให้โจทย์มีความยากอย่างมีชั้นเชิงซับซ้อนแถมเวลาก็น้อยเกินไปจนทำกันไม่ทัน เด็กหลายคนจึงมักสอบตก
สอบตกเพราะมีการนำเนื้อหาบทเรียนที่ครูไม่ได้สอนมาออก
อย่างที่บอกว่าครูสมัยนี้ไม่ได้ทำหน้าที่แค่สอนเด็กนักเรียนอย่างเดียว แต่ยังต้องมีภาระในการประชุม การทำงานตามที่ผู้อำนวยการและหัวหน้ากลุ่มสาระสั่งงานมา รวมไปถึงงานเอกสารแฟ้มสะสมผลงานต่าง ๆ ของตัวเองที่แทบจะเหมือนพนักงานออฟฟิศเข้าไปทุกที ยิ่งเป็นการประชุมซึ่งโรงเรียนใหญ่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งทำให้ไม่ค่อยมีเวลามาสอนเด็กและทำเอกสารความรู้ เมื่อถึงเวลาสอบจริงจึงให้เด็กไปค้นคว้าเอาเองหรือส่งเป็นไฟล์เอกสารมาให้ทางกลุ่มออนไลน์และให้เปิดอ่านเอา ซึ่งแน่นอนว่าหากคนเราสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้เพียงแค่อ่านก็คงจะไม่ต้องมีครูอยู่ในโรงเรียนแล้ว ดังนั้นเมื่อข้อสอบออกมาในเนื้อหาบทเรียนที่ครูไม่ได้สอนจึงทำให้มีเด็กนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่ยังเข้าถึงเนื้อหาได้ไม่ดีพอจนสามารถสอบตกได้ หากในข้อสอบนั้นมีเนื้อหาที่ครูไม่ได้สอนเยอะ
สอบตกเพราะเด็กขาดแรงจูงใจ
การสอบตกอีกเหตุผลหนึ่งคือเด็กนักเรียนมีการขาดแรงจูงใจในการเรียน สังเกตหรือไม่ว่าในสังคมไทยเรามักจะมีเด็กนักเรียนที่ชอบโดดเรียนบ่อย ๆ ซึ่งพวกเขาคิดกันว่าการเรียนเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ วิธีการสอนก็มีแต่สาระที่อธิบายเข้าใจยาก ขาดอิสระ กดดัน ต้องอยู่ในกรอบจึงไม่ชอบกัน พอถึงเวลาจริงเด็กที่ไม่ได้เข้าเรียนก็มักสอบตก บางคนที่โดดเรียนกันบ่อยก็หมดสิทธิ์สอบ ซึ่งปัญหานี้จะน้อยลงหากระบบการศึกษาของเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เน้นวิชาการให้น้อยลงและใช้กิจกรรมเสริมความรู้ที่สนุกสนานได้สาระมากมายในทุกวัน อีกทั้งหากเป็นไปได้ครูผู้สอนแต่ละวิชาก็ต้องปรับเปลี่ยนเทคนิคการสอนให้เข้ากับวัยของเด็กนักเรียนด้วย เช่น ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายด้วยมุขตลกที่แฝงสาระความรู้ เป็นต้น นอกจากจะทำให้เด็กรักการเรียนแล้ว ยังสามารถจดจำเนื้อหาความรู้ในการสอบได้ดีจากมุขตลกที่เป็นสัญลักษณ์นั้น ๆ ด้วย
#การสอบตก #นักเรียน #แม่บ้านยุคใหม่
