สิทธิของเด็กขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้

สิทธิของเด็กขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้
Facebook
Twitter

            กฎหมายเป็นข้อตกลงร่วมกันของสังคม มีทั้งแบบเป็นสิ่งที่ต้องทำ ควรทำ และทำได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่กฎหมายเขียนไว้เพื่ออนุญาตคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ให้สามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้ เรียกว่า สิทธิ ซึ่งทุกคนภายใต้รัฐธรรมนูญจะได้สิทธิดังกล่าว โดยพื้นฐานทุกคนจะได้รับสิทธิเหมือนๆกัน เช่น สิทธิในการมีชีวิต สิทธิในการเดินทางอย่างอิสระ สิทธิในการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน

แต่เมื่อดูตามความเป็นจริงแล้วประชากรในสังคมได้แบ่งเป็นสองกลุ่มตามวุฒิภาวะในการตัดสินใจ คือ เด็กกับผู้ใหญ่ แน่นอนว่าเด็กทุกคนไม่ได้มีวุฒิภาวะมากพอที่จะตัดสินใจให้ถี่ถ้วนได้ สิทธิของเด็กจึงถูกจำกัดด้วยพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่ก็มีบางสิทธิที่กฎหมายมองว่าเด็กสามารถใช้สิทธิเหล่านี้ได้ โดยไม่ก่อให้เกิดภาระแก่เด็ก ซึ่งในบทความนี้เราจะพูดถึงสิทธิเด็กขั้นพื้นฐานที่มีอยู่ในประมวลแพ่งและพาณิชย์ของไทยกัน

4 สิทธิเด็กตามกฎหมาย

            ก่อนที่เราจะพูดเรื่องสิทธิของเด็กเราจำเป็นต้องนิยามคำว่า เด็ก ในภาษากฎหมายให้เข้าใจกันก่อน ซึ่งตามมาตรา 19 เด็ก คือ คนที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี โดยตามกฎมายจะใช้คำว่า ผู้เยาว์ เว้นแต่ว่าถ้าเด็กคนนั้นได้จดทะเบียนสมรสตอนอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปี เด็กคนนั้นจะไม่ใช่ผู้เยาว์อีกต่อไป แม้จะจดทะเบียนหย่าภายหลังแล้วก็ตาม เมื่อทราบแล้วว่าเด็กหมายถึงคนกลุ่มไหน เราจะมากล่าวถึงสิทธิที่เด็กสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากพ่อแม่ผู้ปกครองกัน โดยจะแบ่งเป็น 4 ข้อย่อย ดังนี้

            1.เด็กสามารถทำอะไรก็ได้ที่ให้ตัวเองได้รับประโยชน์ หรือหลุดพ้นจากหน้าที่ เช่น หากคนมีให้ของบางอย่างแก่เด็ก โดยไม่ขอสิ่งตอบแทน เด็กสามารถรับสิ่งนั้นได้โดยไม่ต้องบอกพ่อแม่ ส่วนคำว่าหน้าที่ หมายถึง ภาระที่เด็กคนนั้นต้องปฏิบัติตาม อาจเกิดจากสัญญา เช่น สัญญาแรงงาน โดยปกติแล้วเด็กสามารถรับจ้างได้แต่ต้องทำตามแบบที่กฎหมายกำหนด หากเด็กคนนนั้นรู้สึกว่าทำงานไม่ไหวแล้วสามารถออกมาได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องบอกพ่อแม่ก่อน

            2.ทำการบางอย่างที่เป็นเรื่องส่วนตัว บางอย่างในที่นี้ หมายถึง การกระทำที่ก่อให้เกิดสิทธิหน้าที่ระหว่างสองฝ่าย อาจจะเป็นนิติกรรมหรือสัญญาก็ได้ เช่น การไปทำบัตรประชาชน การจดทะเบียนสมรส เป็นต้น ที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องที่เด็กคนนั้นต้องเป็นคนลงลายชื่อเองไม่สามารถให้ใครมาลงลายมือชื่อแทนได้ เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัว

            3.สามารถซื้อขายอะไรก็ได้ตามฐานะของตัวเองและที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เพราะในชีวิตประจำวันของเด็กแต่ละคนไม่ได้มีพ่อแม่คอยตามติดตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนไปโรงเรียนเวลาที่เด็กหิวอยากกินอะไร ถ้าไม่มีสิทธินี้จะไม่สามารถซื้อขนมกินเองได้ กฎหมายจึงอนุญาตให้เด็กจับจ่ายซื้อขายได้ แต่ต้องเป็นไปเพื่อการดำรงชีวิต และตามฐานะของตัวเอง สำหรับการดำรงชีวิตนั้นไม่ได้จำกัดแค่ปัจจัยสี่ อย่างการที่เด็กต้องการซื้อโทรศัพท์สักเครื่องเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารก็เป็นเรื่องจำเป็นในการดำรงชีวิตเช่นกัน อย่างไรก็ดีต้องดูฐานะการเงินทางบ้านประกอบด้วยเพราะหากเกินตัวไปจะเป็นภาระแก่พ่อแม่ได้

            4.เด็กทำพินัยกรรมได้ตอนอายุ 15 ปี แม้เด็กส่วนใหญ่อาจไม่ได้มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง แต่กฎหมายได้ระบุเผื่อไว้เพื่อประโยชน์ของเด็กเอง

            อย่างไรก็ดี หากพ่อแม่ผู้ปกครองเห็นว่าลูกของตนได้ใช้สิทธิแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถยกเลิกได้ เฉพาะกรณีที่เด็กใช้สิทธิแล้วไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ส่วนที่เด็กใช้สิทธิอย่างถูกต้องแล้วพ่อแม่จะไม่สามารถไปยุ่งได้

เครดิตภาพ 1 จาก www.synphaet.co.th

เครดิตภาพที่ 2 จาก www.insidehousing.co.uk

เครดิตภาพ 3 จาก sites.google.com

#ไลฟ์สไตล์ของแม่บ้าน #แม่บ้านยุคใหม่ #สิทธิของเด็ก

More to explorer

รู้จักการเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน

รู้จักการเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน

หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า “เลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน” มาแล้วซึ่งความหมายนี้มีทั้งมุมมองที่ดีและไม่ดีเท่ากัน การเลี้ยงลูกควรจะมีระดับที่เหมาะสม ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไปเพราะจะส่งผลต่อจิตใจและการใช้ชีวิตของเด็กเมื่อเติบโตขึ้นโดยตรง

How to วิธีขจัดคราบชากาแฟติดในแก้ว ให้กลับมาใสสะอาดอีกครั้ง

How to วิธีขจัดคราบชากาแฟติดในแก้ว ให้กลับมาใสสะอาดอีกครั้ง

สำหรับใครที่ชื่นชอบการดื่มชาหรือกาแฟจะรู้ดีว่าจะมีคราบสีน้ำตาลติดอยู่ที่แก้วแบบฝังแน่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะขัดล้างยังไงก็ออกยาก มาดู วิธีขจัดคราบชากาแฟติดในแก้ว ด้วยของที่ต้องมีครัวใกล้ตัวภายในบ้านกันดีกว่าว่ามีอะไร

พ่อแม่รู้หรือไม่-ต้องเสริมสารอาหารให้กับเด็กมังสวิรัติ-

พ่อแม่รู้หรือไม่ ต้องเสริมสารอาหารให้กับเด็กมังสวิรัติ 

แต่ละครอบครัวนั้นก็มีรูปแบบการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันออกไป บางบ้านก็รับประทานอาหารกันได้ทุกแบบ ในขณะที่หลายบ้านนั้นก็รับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ แม้ว่าการรับประทานมังสวิรัตินั้นจะช่วยให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และยังลดโอกาสในการเกิดโรคบางอย่างได้ด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับครอบครัวที่รับประทานอาหารแบบมังสวิรัตินั้นหากมีเด็กเล็กอยู่ในครอบครัวด้วยจำเป็นจะต้องเสริมสารอาหารให้กับพวกเขาเพื่อให้เด็กมังสวิรัติมีร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพดี