ปลอบใจเด็กปฐมวัยที่ผู้ปกครองมารับกลับบ้านช้าอย่างไรดี?

ปลอบใจเด็กปฐมวัยที่ผู้ปกครองมารับกลับบ้านช้าอย่างไรดี?
Facebook
Twitter

การที่ผู้ปกครองของเด็กมารับบุตรหลานของตัวเองที่โรงเรียนเพื่อพากลับบ้านช้ากว่าเวลาเลิกเรียนปกตินับเป็นเรื่องที่เด็กหลาย ๆ คนต้องประสบในยุคที่ผู้ใหญ่หลายคนทำงานเสร็จเกือบ 4 – 5 โมงเย็นตามเวลาเลิกงานของตัวเองซึ่งเด็กก็ต้องเลิกก่อนและนั่งรออยู่ที่โรงเรียนเพื่อให้ถึงเวลานั้นอยู่แล้ว

แต่สำหรับเด็กปฐมวัยนั้นเขาไม่สามารถเข้าใจเหตุผลการมารับช้าของผู้ปกครองได้ทุกคนแม้ว่าจะมีการบอกกันไว้แล้ว แต่พอถึงเวลาจริงเด็กปฐมวัยก็ย่อมจะคิดว่าที่ผู้ปกครองมารับช้าก็เพราะจะทิ้งเขาไว้โรงเรียนและเอาแต่ร้องไห้ คุณครูปฐมวัยที่เป็นผู้ดูแลจนเหลือเด็กคนสุดท้ายของห้องเรียนจึงควรหาวิธีการปลอบใจเด็กที่ผู้ปกครองมารับกลับบ้านช้า ดังนี้

เล่านิทานเพื่อปลอบใจเด็กที่ผู้ปกครองมารับช้า

เด็กปฐมวัยจะชอบฟังนิทานเป็นชีวิตจิตใจเพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีเพื่อนและได้เข้ามาสนุกสนานอยู่ในโลกแห่งจินตนาการที่ไม่มีคำว่า “ผิดหวัง” และการดำเนินเรื่องในนิทานก็น่าตื่นเต้นพอที่เด็กปฐมวัยจะคาดเดาไม่ออกว่าต่อไปเรื่องราวจะไปในทิศทางใด การเล่านิทานให้เด็กปฐมวัยที่ผู้ปกครองมารับกลับบ้านช้าฟังเรื่อย ๆ จึงเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของเด็กไม่ให้รู้สึกกลัวได้เป็นอย่างดี และการใช้เวลาในการเล่านิทานก็สามารถถ่วงเวลาได้มากด้วย

บอกเด็กปฐมวัยว่า “ผู้ปกครองกำลังเดินทางมารับ”

เด็กปฐมวัยที่ผู้ปกครองมารับช้ามักจะรู้สึกโกรธ ผิดหวัง และเสียใจที่ผู้ปกครองมารับช้าจนคิดไปเองว่าเขาทิ้งเราหรือไม่ก็แอบกลับไปทำกิจกรรมพักผ่อนของตัวเองที่บ้านแล้วปล่อยให้เราซึ่งเป็นลูกหลานรออยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ คุณครูจึงไม่ควรทำให้เด็กคิดและมองผู้ปกครองผิด ๆ เช่นนั้น โดยการบอกเขาไปว่า “ผู้ปกครองกำลังเดินทางมารับแล้วนะคะ เขาโทรมาบอกครูแล้ว พอเสร็จงานเขาก็รีบบึ่งรถมาหาเลย” ประโยคนี้จะทำให้เด็กปฐมวัยสามารถมองได้ว่าผู้ปกครองเองแม้จะมารับช้าแต่ก็เห็นความสำคัญของเราและห่วงมากซึ่งจะช่วยผ่อนคลายบรรยากาศระหว่างเด็กปฐมวัยกับผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี

แจกขนมให้เด็กรับประทานเพื่อปลอบใจเด็กที่ผู้ปกครองมารับช้า

การกินเท่านั้นที่ครองโลกและช่วยบำบัดจิตใจของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่เด็กปฐมวัยเช่นกัน การได้รับประทานขนมหรือเครื่องดื่มอร่อย ๆ แม้จะเป็นเพียงชิ้นเล็ก ๆ ก็สามารถทำให้จุดลงเอยของวันนั้น ๆ สำหรับเขาเป็นไปได้อย่างมีความสุขอีกวันนึงแล้วเพียงแค่ได้รับของอร่อยสักอย่างหนึ่งซึ่งคุณครูควรจะมีขนมซักแพ็คซื้อติดไว้ในห้องเรียนเพื่อใช้ในกรณีให้คะแนนและกรณีปลอบใจเด็กปฐมวัยที่ผู้ปกครองมารับกลับบ้านช้าด้วย เมื่อเด็กได้รับประทานของอร่อยก็จะเริ่มรู้สึกดีขึ้น ยิ่งเป็นเยลลี่หรือคุกกี้หวาน ๆ ก็ยิ่งช่วยให้อารมณ์เย็นลงได้

รูปภาพประกอบ : Pixabay

#ปลอบใจเด็กปฐมวัย #ไลฟ์สไตล์ของแม่บ้าน #แม่บ้านยุคใหม่

More to explorer

รู้จักการเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน

รู้จักการเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน

หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า “เลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน” มาแล้วซึ่งความหมายนี้มีทั้งมุมมองที่ดีและไม่ดีเท่ากัน การเลี้ยงลูกควรจะมีระดับที่เหมาะสม ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไปเพราะจะส่งผลต่อจิตใจและการใช้ชีวิตของเด็กเมื่อเติบโตขึ้นโดยตรง

How to วิธีขจัดคราบชากาแฟติดในแก้ว ให้กลับมาใสสะอาดอีกครั้ง

How to วิธีขจัดคราบชากาแฟติดในแก้ว ให้กลับมาใสสะอาดอีกครั้ง

สำหรับใครที่ชื่นชอบการดื่มชาหรือกาแฟจะรู้ดีว่าจะมีคราบสีน้ำตาลติดอยู่ที่แก้วแบบฝังแน่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะขัดล้างยังไงก็ออกยาก มาดู วิธีขจัดคราบชากาแฟติดในแก้ว ด้วยของที่ต้องมีครัวใกล้ตัวภายในบ้านกันดีกว่าว่ามีอะไร

พ่อแม่รู้หรือไม่-ต้องเสริมสารอาหารให้กับเด็กมังสวิรัติ-

พ่อแม่รู้หรือไม่ ต้องเสริมสารอาหารให้กับเด็กมังสวิรัติ 

แต่ละครอบครัวนั้นก็มีรูปแบบการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันออกไป บางบ้านก็รับประทานอาหารกันได้ทุกแบบ ในขณะที่หลายบ้านนั้นก็รับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ แม้ว่าการรับประทานมังสวิรัตินั้นจะช่วยให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และยังลดโอกาสในการเกิดโรคบางอย่างได้ด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับครอบครัวที่รับประทานอาหารแบบมังสวิรัตินั้นหากมีเด็กเล็กอยู่ในครอบครัวด้วยจำเป็นจะต้องเสริมสารอาหารให้กับพวกเขาเพื่อให้เด็กมังสวิรัติมีร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพดี