เด็กปฐมวัยในเมือง VS เด็กปฐมวัยในชนบท

เด็กปฐมวัยในเมือง VS เด็กปฐมวัยในชนบท
Facebook
Twitter

แม้เด็กปฐมวัยจะมีวุฒิภาวะและธรรมชาติตามวัยที่เหมือนกัน แต่การได้รับการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กย่อมจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมที่เด็กปฐมวัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลรอบตัวหรือแหล่งชุมชนที่ตัวเองอยู่ อย่างที่เห็นภาพได้ชัดเจนตามบริบทมากที่สุดซึ่งวันนี้เราจะนำมาอธิบายให้หลายคนเข้าใจกันก็คือ ความแตกต่างของเด็กปฐมวัยที่อาศัยอยู่ในเมืองกับเด็กปฐมวัยที่อาศัยในชนบท ชีวิต ความคิด นิสัย และทักษะความรู้ของพวกเขาจะแตกต่างกันมากแค่ไหนกันนะ?

เด็กปฐมวัยในเมือง

เด็กปฐมวัยในเมือง เป็นกลุ่มเด็กที่อาศัยอยู่ท่ามกลางความเจริญของสังคมเมืองที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง ผู้คนอยู่กันอย่างหนาแน่น มีวิถีชีวิตของบุคคลที่รวดเร็ว งานในภาระหน้าที่ส่วนตัวของผู้ปกครองก็มีเยอะจนบางคนก็ไม่มีเวลามาให้ความสนใจเด็กปฐมวัยมากพอ แต่ก็คอยซัพพอร์ตเด็กปฐมวัยด้วยวัตถุสิ่งของที่น่าสนใจหลากหลายทำให้เด็กปฐมวัยในเมืองกลายเป็นเด็กที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ย่อมต้องการสิ่งตอบแทน ใช้เวลาว่างอยู่กับของเล่นและสื่อเทคโนโลยีทำให้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับเพื่อนหรือผู้ใหญ่ในวัยเดียวกันที่ไม่ดีนัก รวมไปถึงพัฒนาการทางอารมณ์และจิตใจที่ลึก ๆ เด็กปฐมวัยก็รู้สึกขาดความอบอุ่นและต้องการเรียกร้องความสนใจจากผู้เลี้ยงดูบ่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว ในบางครั้งจึงเผลอแสดงอารมณ์ส่วนลึกของตัวเองออกมาผ่านการกระทำที่เรียกว่า “เด็กก้าวร้าวเอาแต่ใจ” ในสายตาผู้ใหญ่ ซึ่งความจริงพวกเขาก็แค่ต้องการความรักและการให้เวลาจากผู้เลี้ยงดูบ้างก็เท่านั้น

ในด้านการศึกษา เด็กปฐมวัยที่อยู่ในเมืองจะได้รับการเรียนรู้ที่กว้างขวางจากผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญตามหลักสูตรทางเลือกของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั้งรัฐและเอกชนตามที่ต้องการ มีศูนย์การเรียนรู้และสื่อการสอนในห้องเรียนที่หลากหลายให้เด็กค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาจนสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เองโดยที่ผู้ใหญ่ก็คิดไม่ถึง

เด็กปฐมวัยในชนบท

เด็กปฐมวัยในชนบท เป็นกลุ่มเด็กที่อาศัยอยู่นอกเมืองหรือตามอำเภอเล็ก ๆ ที่มีเพียงหมู่บ้านหรือชุมชมขนาดย่อม ไร้แสงสีเสียง ครอบครัวของพวกเขามักจะรับอาชีพทำนาไร่สวนหรือทำอาชีพด้านหัตถกรรมเป็นหลัก ซึ่งรายได้ก็พอหาเลี้ยงชีพให้ตัวเองกับครอบครัวได้ นาน ๆ ครั้งเด็กจะได้ของที่อยากได้ที ไม่มีสื่อเทคโนโลยีให้ดูเป็นส่วนตัวเหมือนเด็กในเมือง ในยามว่างเด็กปฐมวัยในชนบทจึงมักออกไปช่วยครอบครัวทำงานแบ่งเบาภาระง่าย ๆ

ตามวัยกับคนในครอบครัวตัวเอง หรือออกไปเล่นคิดเกมสนุก ๆ ที่บ้านของเพื่อนวัยเดียวกันซึ่งอยู่ในซอยเดียวกันหรืออยู่ใกล้พอที่พ่อแม่จะสามารถเห็นเด็กได้ว่าไม่มีอันตราย อีกทั้งชาวบ้านในหมู่บ้านต่างก็รู้จักกันดีจึงช่วยเป็นหูเป็นตาร่วมกันได้ หากอยากกลับมาหาพ่อมาเมื่อไหร่ก็มา ในทุกวันเด็กจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัว แม้ในการเรียนจะไม่มีสื่อการสอนที่ดีเหมือนโรงเรียนใหญ่ ๆ ในตัวเมืองและการส่งเสริมการศึกษาก็ยังน้อย

ทำให้ผู้ปกครองไม่ค่อยเห็นความสำคัญของการเรียนของเด็กปฐมวัยจนไม่เข้มงวดในการสอนการบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นเด็กปฐมวัยในชนบทก็มีทักษะชีวิตที่ดีกว่าเด็กในเมืองจากการลงมือปฏิบัติทุกอย่างด้วยตัวเอง มีมิตรไมตรีที่ดีกับคนทุกวัย สื่อสารกันรู้เรื่องจนผู้ใหญ่อย่างคุณคาดไม่ถึงทีเดียว และที่สำคัญคือ ผู้ปกครองยังให้ความสำคัญกับการเลี้ยงดูอบรมเด็กด้วยตัวเองด้วย เด็กปฐมวัยในชนบทจึงได้อยู่ใกล้ชิดผู้ปกครองมาก

รูปภาพประกอบ : Pixabay

#เด็กปฐมวัยในชนบท #เด็กปฐมวัยในเมือง #ไลฟ์สไตล์ของแม่บ้าน #แม่บ้านยุคใหม่

More to explorer

รู้จักการเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน

รู้จักการเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน

หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า “เลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน” มาแล้วซึ่งความหมายนี้มีทั้งมุมมองที่ดีและไม่ดีเท่ากัน การเลี้ยงลูกควรจะมีระดับที่เหมาะสม ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไปเพราะจะส่งผลต่อจิตใจและการใช้ชีวิตของเด็กเมื่อเติบโตขึ้นโดยตรง

How to วิธีขจัดคราบชากาแฟติดในแก้ว ให้กลับมาใสสะอาดอีกครั้ง

How to วิธีขจัดคราบชากาแฟติดในแก้ว ให้กลับมาใสสะอาดอีกครั้ง

สำหรับใครที่ชื่นชอบการดื่มชาหรือกาแฟจะรู้ดีว่าจะมีคราบสีน้ำตาลติดอยู่ที่แก้วแบบฝังแน่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะขัดล้างยังไงก็ออกยาก มาดู วิธีขจัดคราบชากาแฟติดในแก้ว ด้วยของที่ต้องมีครัวใกล้ตัวภายในบ้านกันดีกว่าว่ามีอะไร

พ่อแม่รู้หรือไม่-ต้องเสริมสารอาหารให้กับเด็กมังสวิรัติ-

พ่อแม่รู้หรือไม่ ต้องเสริมสารอาหารให้กับเด็กมังสวิรัติ 

แต่ละครอบครัวนั้นก็มีรูปแบบการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันออกไป บางบ้านก็รับประทานอาหารกันได้ทุกแบบ ในขณะที่หลายบ้านนั้นก็รับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ แม้ว่าการรับประทานมังสวิรัตินั้นจะช่วยให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และยังลดโอกาสในการเกิดโรคบางอย่างได้ด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับครอบครัวที่รับประทานอาหารแบบมังสวิรัตินั้นหากมีเด็กเล็กอยู่ในครอบครัวด้วยจำเป็นจะต้องเสริมสารอาหารให้กับพวกเขาเพื่อให้เด็กมังสวิรัติมีร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพดี