ไม่มีใครที่อยากให้ลูกน้อยของตัวเองถูกคนอื่นแกล้งไม่ว่าจะเป็นคนในรุ่นเดียวกันหรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ตาม ทว่าหากจะให้แสดงความโกรธตามอารมณ์แล้วไปเอาเรื่องกับอีกฝ่ายอย่างเดียวเลยก็ดูจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะการแกล้งกันไม่ใช่ว่าจะทำกันอย่างไร้เหตุผล การกระทำของทุกคนต้องมีอารมณ์และเหตุผลเป็นที่ตั้งอยู่แล้วจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อันดับแรกคุณที่เป็นคุณพ่อคุณแม่จึงควรควบคุมอารมณ์ให้ดีและลองทำตามวิธีของเราดูเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาก่อนจะปรับความเข้าใจกันได้ดีในที่สุด

เมื่อลูกถูกแกล้งควรเข้าไปถามเหตุผลทั้งสองฝ่าย

เมื่อลูกถูกแกล้ง อันดับแรกคุณควรจะเข้าไปถามลูกของคุณก่อนถึงเหตุผลว่าทำไมบุคคลนั้น ๆ จึงมาแกล้งลูกของเราซึ่งเขาก็จะตอบตามที่เขาเข้าใจมา และพอจบ คุณก็จะต้องไปหาเด็กที่แกล้งลูกคุณโดยใช้วิธีเรียกเข้ามาคุยด้วยรอยยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีที่ไม่โกรธก่อนจะถามถึงเหตุผลเดียวกับที่ถามลูก ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ฟังความลูกข้างเดียว เพราะบางทีอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้

เมื่อลูกถูกแกล้งควรเป็นบุคคลกลางในการปรับความเข้าใจทั้งสองฝ่าย

เมื่อคุณฟังความจริงถึงสาเหตุที่ลูกของคุณถูกแกล้งจากเขาและคนที่แกล้งเขาแล้วก็ให้ทั้งคู่มาเจอกันแล้วเป็นบุคคลกลางในการช่วยปรับความเข้าใจที่มีต่อกัน หากเป็นความเข้าใจผิดจนทำให้เพื่อนที่แกล้งลูกโกรธจัดก็ต้องยอมรับกันและคุยกันด้วยเหตุผลต่อจากนี้ ไม่คิดอะไรเองแล้วตัดสินด้วยอารมณ์ก่อน แต่หากเขาไม่ชอบลูกคุณจนแกล้งจริงก็ให้อธิบายให้เขาฟังถึงตัวลูกคุณในมุมที่หลายคนมักมองข้ามไปรวมถึงเขาที่แกล้งลุกคุณด้วยเพื่อให้เขาเกิดความเข้าใจในตัวลูกคุณมากขึ้นและลดความไม่ชอบลง ยิ่งผู้ปกครองมาหาถึงที่ เขาที่แกล้งลูกคุณก็ย่อมต้องมีความเกรงใจและแอบกลังเหมือนกัน

เมื่อลูกถูกแกล้งควรฝึกให้ลูกปกป้องตัวเองและบอกครู

หากลุกคุณยังถูกคนอื่นแกล้งบ่อย ๆ ก็ต้องสอนลูกของคุณให้สู้กลับบ้าง ไม่ใช่การสู้เพื่อการแก้แค้น แต่เป็นการสู้เพื่อปกป้องร่างกายและจิตใจของเขาไม่ให้ได้รับการบาดเจ็บ หากใครจะเข้ามาแกล้งทำร้ายร่างกายก็แค่ผลักอีกฝ่ายออกแบบไม่ต้องแรงแล้ววิ่งหนีไปในที่ที่คนเยอะหรืออยู่ใกล้คนอื่นที่ไว้ใจได้ เช่น เพื่อนสนิทหรือคุณครู เป็นต้น

การปกป้องลูกย่อมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องทำ แต่การรับฟังเหตุผลของคนอื่นร่วมกันก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้ความคิดของคุณไม่เป็นในทางเดียวโดยไม่รู้อะไรเลย พ่อแม่สมัยนี้มักชอบมองแค่ลูกตัวเองที่เป็นฝ่ายถูกแกล้งโดยไม่นึกถึงที่มาที่ไปและจะไปเอาเรื่องอีกฝ่ายให้ถึงที่สุด หากคุณมองให้รอบด้านแล้วค่อย ๆ คุยกัน ปัญหาทุกอย่างก็จะจบลงด้วยดี และทำให้ลุกคุณอยู่ในโรงเรียนอย่างมีความสุข มีภูมิคุ้มกันที่ดีต่อตัวเองได้

รูปภาพประกอบ : Pixabay

#ลูกคุณถูกเพื่อนแกล้ง #ไลฟ์สไตล์ของแม่บ้าน #แม่บ้านยุคใหม่